วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2565

EP132. กระจกที่ใช้กันมีแบบไหนบ้าง?

 กระจกที่ใช้กันมีแบบไหนบ้าง?



1️⃣ กระจกแผ่น (Sheet glass) กระจกธรรมดา ความแข็งแรงต่ำ ผิวไม่เรียบ เป็นคลื่น มีความใสมาก
▪️การลดความร้อน : กระจกขนาด 12mm ลดได้ 8% หรือการติดฟิล์มประเภทต่างๆ เช่น ฟิล์มลดความร้อน ฟิล์มนิรภัยเสริมเข้าไปในของเดิม
▪️การนำไปใช้ : ใช้ในส่วนที่ไม่ได้เน้นความสวยงามหรือต้องการโชว์สินค้า กระจกหน้าต่างธรรมดา
2️⃣ กระจกโฟลต (Float glass) แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ
2.1 กระจกโฟลตใส (Clear float glass) เป็นกระจกรูปแบบพื้นฐานในการนำไปทำกระจกชนิดอื่นๆ
▪️การลดความร้อน - ความร้อนจะผ่านตัวกระจกได้มาก ทำให้กระจกอมความร้อนน้อย กันความร้อนได้ไม่ดี
▪️การนำไปใช้ - มักนำกระจกประเภทนี้ไปดัดแปลงทำกระจกในแบบอื่นๆดังนี้
- กระจกเทมเปอร์ และกระจกกึ่งนิรภัย
- กระจกลามิเนต
- กระจกเคลือบผิวประเภทต่างๆ
2.2 กระจกโฟลตสีตัดแสง (Tinted float glass) ซึ่งการเกิดสีนั้นเกิดจากการผสมออกไซด์ของโลหะชนิดต่างๆ จนทำให้เกิดเป็นสีขึ้น เช่น สีเขียว สีเทา สีฟ้า ยิ่งสีเข้มมากก็ยิ่งลดความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านได้มาก
▪️การลดความร้อน - กระจกประเภทนี้กันความร้อนเข้าบ้านด้วยการสะสมความร้อนไว้ที่ตัวกระจก โดยมีออกไซด์ที่ใส่ลงไปเป็นตัวแปร ความร้อนที่ผ่านเข้าตัวบ้านจะมีน้อย แต่ถ้าจับที่กระจกจะรู้ได้ถึงความร้อนที่สะสมในแผ่นกระจก ด้วยความที่มันสะสมในกระจกมันจึงเสี่ยงกับการแตก โดยเฉพาะถ้านำไปติดตั้งในที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิภายนอกและภายในจะเสี่ยงกับการระเบิด
▪️การนำไปใช้ - มักนิยมนำไปทำประตู หน้าต่าง ในบ้านพักอาศัย บ้านจัดสรร อย่างที่โฆษณากันว่า "กระจกเขียวตัดแสง (Tinted float glass) " ก็คือตัวนี้นั่นเอง อย่าสับสนกับกระจกสีธรรมดา อันนั้นกันความร้อนแทบไม่ได้
3️⃣ กระจกอบความร้อน (Heat treated Glass) แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ
3.1 กระจกนิรภัยเทมเปอร์ (Tempered safety glass) คือ การนำเอากระจกธรรมดาหรือกระจกที่มีปริมาณของโลหะที่ผสมเข้าไปในสัดส่วนที่น้อย มาทำให้อ่อนตัวลงอีกครั้งและทำให้เย็นตัวอย่างรวดเร็ว จนทำให้กลายเป็นกระจกที่มีความแข็งแรงกว่าเดิม 5-10 เท่า เวลากระจกแตกจะเป็นเมล็ดข้าวโพด 🌽ไม่ร่วงหล่น
▪️การนำไปใช้ - ใช้ในส่วนที่ต้องการความปลอดภัยสูงโดยเฉพาะ คือ กระจกกั้นห้องน้ำ ราวระเบียงกระจก ประตูหน้าต่างที่บานมีขนาดใหญ่กว่าปกติ โดยอาจนำไปประกบติดกันในรูปแบบกระจกลามิเนตเทมเปอร์ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและช่วยลดความร้อนที่ผ่านกระจกไปในตัว
(หากใช้ในส่วนโดนน้ำ เมื่อทำเป็นกระจกเทมเปอร์ลามิเนตควรหลีกเลี่ยงฟิล์ม PVB)
3.2 กระจกกึ่งนิรภัย (Heat Strengthened Glass) คือ การนำเอากระจก 2.1 กระจกโฟลตใส (Clear float glass) มาทำให้อ่อนตัวลงอีกครั้งและทำให้เย็นตัวแบบช้าๆ วิธีการนี้เพิ่มความแข็งแรงให้กระจกเดิม 2-3 เท่า เวลาแตกจะเป็นรูปปากฉลาม 🦈 แต่ไม่ร่วงหล่น
4️⃣ กระจกเคลือบผิว หรือกระจกสะท้อนแสง (Surface coated glass) กระจกประเภทนี้คือการนำกระจกธรรมดาหรือกระจกโฟลตใส นำมาทำการเคลือบที่ผิวกระจกหรือนำไปทำให้เป็นเนื้อเดียวกับผิวกระจก มีหลากหลายรูปแบบ เช่น
4.1 กระจกสะท้อนรังสีจากดวงอาทิตย์ (Solar Reflective Glass) กันความร้อนด้วยการเคลือบผิวหน้าด้านหนึ่งให้สะท้อนแสงได้สูง จึงทำให้ข้างนอกทึบแสง มองจากข้างนอกไม่เห็นแต่คนข้างในมองเห็น สบายตา มักนิยมใช้ในตึกสูงๆ ตึกใหญ่ๆ
▪️ การลดความร้อน - ช่วยลดแสงเข้าอาคารได้ 30% แต่ปัญหาคือ มีโอกาสแตกร้าวจากอุณหภูมิที่แตกต่างกันของผิวกระจกภายนอกและภายใน
▪️การนำไปใช้ - ใช้สำหรับอาคารที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ต้องการแสงในปริมาณที่ควบคุมได้
4.2 กระจกแผ่รังสีต่ำ(Low-E Glass) กระบวนการเหมือนกระจกสะท้อนรังสีแต่เติมโลหะเงินบริสุทธิ์ลงไปเคลือบผิวหน้าเพื่อแก้ปัญหาอุณหภูมิแตกต่างกันของกระจก จึงทำให้ประสิทธิภาพในการกันแสงลดลง
5️⃣ กระจกดัดแปลง (Processed Glass) คือ การนำกระจกตั้งแต่ 2 แผ่นขึ้นไปมาประกอบกัน แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
5.1 กระจกฉนวน (Insulation Glass) คือ กระจกประกอบกัน 2 แผ่นแบบเว้นช่องตรงกลาง โดยช่องตรงกลางจะใส่สารดูดความชื้น ฉนวน หรือก๊าซเฉื่อย ซึ่งกระจกแบบนี้สามารถสะท้อนความร้อนได้ดีมาก
▪️การลดความร้อน - สามารถเลือกกระจกที่จะนำมาประกอบกัน 2 แผ่นได้ว่าจะเอาชนิดไหน วัตถุประสงค์อะไร เช่น กันความร้อนเข้าบ้านแต่ไม่กั้นแสงสว่าง
▪️การนำไปใช้ - สำหรับงานบ้านๆก็คงไม่ค่อยได้ใช้กันนัก เนื่องจากมีราคาสูงเหมาะสำหรับงานเจาะจงบางประเภท เช่น ตู้กระจกที่กันอุณหภูมิแต่ยังคงต้องการการมองเห็นสินค้า เช่น ตู้เลือกน้ำ 7-11
5.2 กระจกนิรภัยหลายชั้น (Laminated Safety Glass) คือ กระจกตั้งแต่ 2 แผ่นขึ้นไปมาประกบกันโดยยึดด้วยแผ่นฟิล์ม PVB (Poly Vinyl Brutyal) , SGP (Sentry Glass) , EVA (ethylene-vinyl acetate copolymer) หรือ พวกเรซิน เมื่อเวลากระจกแตกจะไม่หลุดออกมาเนื่องจากมีตัวกลางในการประสานกระจก
▪️การลดความร้อน - แผ่นฟิล์มที่นำมาประสานกระจกคือตัวที่ทำให้กระตกลามิเนตได้เปรียบกระจกประเภทอื่นๆ
▪️ การนำไปใช้ - ข้อได้เปรียบของกระจกชนิดนี้คือ
- สามารถเลือกชนิดกระจกที่จะมาประกบกันได้ตามการใช้งานและความต้องการ
- สามารถเลือกชนิดตัวกลางในการประสานกระจกได้ ซึ่งทำให้มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไปตามความต้องการ เช่น ลดความร้อน ลดเสียง
🔻ฟิล์มสำหรับลามิเนต
- ฟิล์ม PVB มีหลายสีสัน เหมาะกับงานห้างโชว์สินค้าใช้กระจกแผ่นใหญ่ เพราะฟิล์มตัวนี้ไม่เหมาะกับส่วนที่โดนน้ำ น้ำจะซึมเข้าฟิล์มตามขอบ ดังนั้นถ้าจะใช้กระจกลามิเนตฟิล์ม PVB กับ ห้องน้ำ ราวกันตกนอกบ้าน หรือส่วนที่โดนน้ำนั้นไม่ควรอย่างยิ่งหากจะใช้ควรซีลขอบให้ดี และไม่เหมาะกับบานประตูที่ต้องเปิดเข้า-ออกตลอด จะทำให้ตัวกระจกแยกออกจากฟิล์ม
- ฟิล์ม SGP มีสีเดียวคือ สีใส ไม่กลัวน้ำ ทนความชื้น ดังนั้นฟิล์มตัวนี้จึงเหมาะกับกระจกลามิเนตที่ใช้ในส่วนที่โดนน้ำ และความแข็งแกร่งนั้นมากกว่า PVB ถึง 100 เท่า จึงสามารถใช้ความหนากระจกได้น้อยกว่าฟิล์ม PVB ราคาจึงแพงและใช้เฉพาะโครงการใหญ่ๆ
สรุป : การเลือกกระจกมาใช้งานในบ้านสมัยปัจจุบัน
1.กระจกสีตัดแสง (Tinted float glass)
2.กระจกธรรมดา ใช้การติดฟิล์มเพิ่ม
3.กระจกเทมเปอร์ เหมาะสำหรับห้องน้ำ ราวระเบียง ประตู หน้าต่างบานใหญ่
4.กระจกลามิเนต การเลือกใช้แต่ละที่ในบ้านขึ้นอยู่กับฟิล์มด้วย
ส่วนแบบอื่นๆ น่าจะเกินความต้องการและราคาเกินความต้องการของงานบ้านๆเล็กๆทั่วไป
**หากบทความนี้มีส่วนไหนที่ผิดพลาดไป สามารถให้ข้อมูลและแก้ไขเพิ่มเติมได้ค่ะ
อ้างอิงเนื้อหา : จุลสาร ACS https://www.eptg-acsc.co.th/mix.../images/Column/column5.pdf
ข้อมูลประกอบอื่นๆ https://krajok.com/lamidelam/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น